Top notch Multipurpose WordPress Theme!

11 วิธีช่วยประหยัดค่าไฟ

by Yensabuy Service Air Comments: 0

ล้างแอร์ประหยัดไฟ

ชวนเชิญ มาล้างแอร์ ลดค่าไฟ ช่วงโควิด19 กันนะคะ | โทร: 02-012-0122 | 089-166-8765

เปิดให้บริการ ลูกค้าทุกท่าน ทุกวัน 8.00-18.00 น.

ล้างแอร์ประหยัดไฟ

นอกจากการ ล้างแอร์ประหยัดไฟ แล้ว ยังมีอีก 11 วิธีต่อไปนี้ จะช่วยเราประหยัดพลังงานและพลังเงินของเราโดยไม่ต้องลงทุน

หลายวิธีที่จะกล่าวถึงนี้ อาจเป็นวิธีง่ายๆ ที่เราคิดไม่ถึงหรือเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าเราพร้อมใจกันปฏิบัติอย่างถูกต้อง จะช่วยประหยัดพลังงานและค่าไฟได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ล้างแอร์ประหยัดไฟ

1. ปิดพัดลมระบายอากาศเมื่อไม่จำเป็น

ในห้องปรับอากาศมักติดตั้งพัดลมระบายอากาศไว้สำหรับระบายอากาศออกจากห้องปรับอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องที่มีกลิ่นหรือควันจากการสูบบุหรี่ เมื่อมีการระบายอากาศออกจากห้อง ก็จะมีอากาศในปริมาณเท่ากันไหลเข้ามาในห้อง เพื่อทดแทนอากาศส่วนที่ถูกระบายทิ้งออกไป อากาศจากภายนอกที่ไหลเข้ามาแทนที่นี้ ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อทำให้อากาศร้อนจากภายนอกที่เข้ามาเย็นลงจนเท่ากับอากาศภายในห้อง พัดลมระบายอากาศนี้มีความจำเป็น หากเป็นห้องที่มีคนใช้งานมาก หรือมีกลิ่นจากเอกสาร, อาหาร หรือควันบุหรี่ แต่หากเป็นห้องที่มีคนใช้งานไม่มาก และไม่มีกลิ่นรบกวน ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ ทั้งนี้เนื่องจาก โดยธรรมชาติจะมีอากาศรั่วซึมผ่านทางกรอบประตูหน้าต่างอยู่ในปริมาณหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้ในการหายใจ นอกจากนี้ หากเป็นห้องประชุม ในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้อากาศเย็นก่อนจะมีคนเข้าใช้ห้อง ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ ให้รอจนมีคนเข้าใช้ห้องประชุมเป็นจำนวนมากก่อน จึงเปิดพัดลมระบายอากาศก็ได้

ล้างแอร์

2. ตั้งปิดจอคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ใช้งาน

ในสำนักงานสมัยใหม่ มีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์กันมากขึ้น ความร้อนจากเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นภาระมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเครื่องปรับอากาศ เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหนึ่งเครื่อง จะปล่อยความร้อนออกมาโดยประมาณ250 วัตต์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นความร้อนจากจอมอนิเตอร์ประมาณ180-200 วัตต์ โดยปกติแล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่ได้ถูกใช้งานตลอดเวลา ดังนั้นผู้ผลิตโปรแกรม จึงมีส่วนที่ให้ผู้ใช้สามารถตั้งโปรแกรมให้จอมอนิเตอร์ปิดโดยอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้สัมผัสคีย์บอร์ด หรือเมาส์ในระยะเวลาหนึ่ง

สำหรับผู้ใช้ Window 98 การตั้งเวลาสามารถทำได้ ดังนี้

1) เลือก My computer

2) เลือก Control Panel

3) เลือก Power Management

4) ตั้งค่า Power schemes เป็น Home/Office Desk

ล้างแอร์ประหยัดไฟ

3. ตั้งอุณหภูมิ27 ๐C แล้วเปิดพัดลมเสริม

ความเย็นสบาย หรือความสบายเชิงความร้อน (Thermal Comfort) เกิดขึ้นได้จากการมีปัจจัยหลัก 3 ประการที่สมดุลกัน คือ

1) อุณหภูมิ

2) ความชื้นสัมพัทธ์

3) ความเร็วลม

หากต้องการระดับความสบายเท่าเดิม เมื่อปัจจัยหนึ่งเปลี่ยนก็สามารถเปลี่ยนปัจจัยอื่นเป็นการทดแทนได้การตั้งอุณหภูมิในห้องสูงขึ้น จะประหยัดพลังงานได้ โดยปกติแล้วก็จะตั้งได้สูงสุดประมาณ 25-26 C มิฉะนั้นจะร้อนเกินไป แต่ถ้าเราเปิดพัดลมช่วยเพิ่มความเร็วลมในห้อง เราจะสามารถตั้งอุณหภูมิได้สูงถึง 28-30 C โดยยังเย็นสบายเหมือนเดิม (มีระดับความสบายเชิงความร้อนเท่ากัน) โดยจะช่วยประหยัดพลังงานได้มาก

ล้างแอร์บ้าน

4. นำตู้มาตั้งชิดผนังด้านตะวันออกหรือตะวันตก

ผนังด้านที่มีความร้อนเข้ามามากทีสุดคือ ด้านตะวันออก และตะวันตก นอกจากความร้อนที่ผ่านผนังเข้ามาแล้ว เวลาที่แสงอาทิตย์ส่องถูกผนัง จะทำให้ผนังมีอุณหภูมิร้อนขึ้นมาก และจะแผ่รังสีความร้อนมาสู่ตัวคน ซึ่งจะทำให้คนรู้สึกร้อนขึ้น แม้อุณหภูมิในห้องจะเท่าเดิม ในห้องที่มีสภาพนี้จะต้องตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ประมาณ 21-22 C จึงจะรู้สึกเย็นสบาย แต่เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น การนำตู้ไปตั้งชิดผนัง จะช่วยป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนังได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องตั้งอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ ในห้องที่ผนังห้องไม่ร้อน การตั้งอุณหภูมิที่ 25 C ก็จะเย็นสบายเพียงพอ นอกจากป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนังแล้ว การมีตู้ตั้งชิดผนัง ยังเสมือนว่ามีผนังหนาขึ้น จึงเป็นการช่วยลดความร้อนที่ผ่านผนังเข้ามาได้ด้วย อย่างไรก็ตาม การนำตู้ไปตั้งติดผนังห้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก

ผนังด้านนั้นมีกระจกด้วย จะทำให้อุณหภูมิภายในตู้สูงกว่าอุณหภูมิห้อง ดังนั้น จึงควรระมัดระวังกรณีที่สิ่งของภายในตู้ไม่สามารถทนความร้อนได้

ล้างแอร์เอง

5. ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้และอย่าเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ในขณะปิดแอร์

ระบบปรับอากาศ (แบบน้ำเย็น) ใช้พลังงานประมาณ 1 หน่วยต่อตันต่อชั่วโมง ตัวอย่างเช่นเครื่องปรับอากาศขนาด 5 ตัน เปิดใช้งาน 4 ชั่วโมง จะใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1 x 5 x 4 = 20 หน่วย คิดเป็นเงินประมาณ 20 x 3= 60 บาท (ค่าไฟเฉลี่ยประมาณ 3 บาทต่อหน่วย) ในอาคารทั่วไปๆ ค่าไฟฟ้าที่จ่ายไปกว่าครึ่งหนึ่งเป็นค่าไฟของระบบปรับอากาศ การปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ใช้ห้องปรับอากาศจะสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ในขณะที่ปิดเครื่องปรับอากาศนั้น จะต้องไม่เปิดประตูหรือหน้าต่างทิ้งไว้ มิฉะนั้นความร้อนและความชื้นจากภายนอกจะเข้าไปในห้องปรับอากาศและจะสะสมอยู่ที่ พื้น, ผนัง, เฟอร์นิเจอร์, พรม, กระดาษ, ผ้าม่านฯลฯ เมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศครั้งต่อไปเครื่องปรับอากาศก็จะต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อดึงเอาความร้อนและความชื้นนี้ออกไป ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าการเปิดเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่องเสียอีก

ล้างแอร์โรงงาน

6. ย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออกนอกห้องปรับอากาศ

อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดจะปล่อยความร้อนออกมา เท่ากับพลังงานไฟฟ้าที่อุปกรณ์นั้นใช้ ดังนั้น ภาระส่วนหนึ่งที่สำคัญของเครื่องปรับอากาศจึงเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้องปรับอากาศ หากเราสามารถลดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องปรับอากาศโดยการย้ายออกไปตั้งไว้นอกห้องปรับอากาศได้ก็จะเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้ ตัวอย่างอุปกรณ์ที่มักมีอยู่ในห้องปรับอากาศแต่สามารถย้ายออกไปได้ เช่น

1) ตู้เย็น

2) ตู้ทำน้ำเย็น

3) เครื่องถ่ายเอกสาร

4) หม้อต้มน้ำร้อน หรือเครื่องชงกาแฟ

5) ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ

6) หม้อหุงข้าวไฟฟ้า

7) ฯลฯ

รับล้างแอร์

7. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและไฟแสงสว่างที่ไม่จำเป็น

เครื่องใช้ไฟฟ้าและหลอดไฟฟ้าแสงสว่าง จะปล่อยความร้อนเข้าสู่ห้องปรับอากาศ เท่ากับพลังงานที่อุปกรณ์ไฟฟ้าและหลอดไฟใช้ และความร้อนนั้นก็จะกลายเป็นภาระของเครื่องปรับอากาศ และต้องเสียพลังงานในการนำความร้อนนี้ทิ้งออกไปข้างนอกอีก จะเห็นได้ว่า การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือไฟฟ้าแสงสว่าง ในห้องปรับอากาศจะเป็นการเสียค่าไฟสองต่อ คือ

– เสียค่าไฟที่อุปกรณ์หรือหลอดไฟใช้

– เสียค่าไฟที่เครื่องปรับอากาศเพื่อนำความร้อนออกไปทิ้งนอกห้อง

ดังนั้น การปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและไฟแสงสว่างที่ไม่จำเป็นในห้องปรับอากาศจึงเป็นการประหยัดสองต่อ คือ ประหยัดที่ตัวอุปกรณ์และประหยัดที่เครื่องปรับอากาศ

รับล้างแอร์บ้าน

8. งดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศ

เมื่อมีการสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศก็จะต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อระบายควันและกลิ่นออกจากห้องการระบายอากาศส่วนหนึ่งออกจากห้อง ก็จะทำให้มีอากาศจากภายนอกใหลเข้ามาในห้องทดแทนซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น หากงดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศหรือเปิดเพียงช่วงสั้นๆ ก็เพียงพอซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานได้ นอกจากนี้ การงดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศ ยังลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ จึงทำให้มีฝุ่นละอองไปจับที่คอยล์น้อยเครื่องปรับอากาศ จึงมีประสิทธิภาพสูงอยู่เสมอ และช่วยยืดระยะเวลาการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศไปได้

ล้างแอร์ประหยัดไฟ

9. สวมเสื้อผ้าบางๆ

การสวมเสื้อผ้าบางๆ จะช่วยให้ร่างกายระบายความร้อนได้ดีขึ้น จึงสามารถตั้งอุณหภูมิให้สูงขึ้นได้ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ดั้งนั้น จึงควรรณรงค์ให้ผู้ที่ทำงานในห้องปรับอากาศหันมาใส่เสื่อผ้าบางๆ ไม่ควรใส่สูทเพื่อที่จะตั้งอุณหภูมิให้สูงขึ้นได้

ล้งแอร์ประหยัดไฟ

10. ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท

หากปิดประตูหรือหน้าต่างไม่สนิท จะทำให้มีอากาศร้อนชื้นจากภายนอกรั่วใหลเข้าไปในห้องได้ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น และสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น มาตรการนี้ดูจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่น่าจะต้องกล่าวถึงอีกแต่กลับเป็นปัญหาที่พบบ่อย และละเลยกันมากที่สุด นอกจากการปิดประตูหน้าต่างไม่สนิทรอยรั่วรอบๆ กรอบ

ประตูและหน้าต่างก็เป็นปัญหาที่พบบ่อยๆ หากพบว่ามีรอยแยกและมีลมรั่วจากภายนอกเข้ามา ก็ควรดำเนินการแก้ไขเพื่อช่วยกันประหยัดพลังงาน

ล้างแอร์ประหยัดไฟ

11. ปิดผ้าม่าน

การปิดผ้าม่าน จะช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากภายนอกเข้ามาสู่ตัวคนโดยตรงได้ และยังช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากผิวกระจกมาสู่ตัวคนด้วย ซึ่งทำให้ไม่ต้องตั้งอุณหภูมิต่ำกว่าปกติเพื่อชดเชยการแผ่รังสีความร้อนจึงช่วยประหยัดพลังงานได้ นอกจากลดการแผ่รังสีความร้อนมาสู่ตัวคนแล้ว ผ้าม่านยังช่วยสะท้อนความร้อนกลับออกไปภายนอกได้ด้วย (ถึงแม้ว่าจะไม่มากนัก) จึงเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง

 


 

ซ่อมแอร์ ด่วน !! ล้างแอร์ ราคาประหยัด เปิดบริการทุกวัน

วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง

by Yensabuy Service Air Comments: 0

ล้างแอร์เอง

ล้างแอร์บ้านง่ายๆ ล้างแอร์ด้วยตัวเอง | ลูกค้าก็ล้างได้ แบบไม่ต้องง้อช่างมืออาชีพนี้

 

ล้างแอร์ด้วยตัวเอง

 

  • สำหรับเมืองร้อน แบบบ้านเรานี้ แทบจะเรียกได้ว่า แอร์นั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกครัวเรือน เลยก็ว่าได้ เมื่อใช้งานบ่อย ๆ เข้ามันก็มักจะมีอาการ แอร์น้ำหยด แอร์เย็นช้า แอร์เย็นไม่ฉ่ำ แอร์ไม่ค่อยเย็น และแอร์ไม่เย็นตามมา ซึ่งหากไม่ทราบสาเหตุเบื้องต้นแล้วมันก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องโทรเรียกช่างมาดูและล้างแอร์ให้ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วอาจมีสาเหตุเพียงแค่มาจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เข้าไปอุดตันตามแผ่นกรองเท่านั้น เนื่องจาก ในการใช้งานนั้น อากาศภายในห้องจะหมุนเวียน ผ่านเข้าไปยังเครื่องปรับอากาศ และผ่านแผ่นกรองเพื่อดักจับเอาฝุ่นละออง ออกไปจากอากาศนั้น ผลก็คือ ลมที่พัดก็เบาลง ความเย็นจากแอร์ก็กระจายได้ไม่ทั่วถึง วิธีการง่าย ๆ ก็เพียงแค่ ถอดออกมาล้างแผ่นกรองเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วน้ำยาแอร์หากไม่รั่วจริง ๆ ก็ยังไม่จำเป็นต้องเติมให้สิ้นเปลืองเลย ค่าเติมน้ำยาแต่ละครั้งก็แพงหลายร้อยอยู่ ซึ่งหากคุณล้างเป็น มันก็ช่วยประหยัดได้มากทีเดียว
  • เรามาดูวิธีการล้างแอร์แบบง่าย ๆ สำหรับให้คุณแม่บ้าน ได้สามารถนำวิธีการนี้ไปใช้ ในการล้างแอร์ ที่บ้านกัน สำหรับการล้างแอร์เบื้องต้น ที่ไม่ต้องใช้ความซับซ้อนอะไรมากนั้น คุณอาจจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริม ซักนิด อย่างเช่น แปรงสีฟันใช้แล้ว หรือ ฟองน้ำล้างจาน ที่ตัดเป็นก้อนเล็ก ๆ พร้อมกับน้ำยา ล้างแอร์เอนกประสงค์ ซึ่งเดี๋ยวนี้ทำออกมาเป็นสเปรย์โฟมกระป๋อง หาซื้อได้ง่ายแล้ว เริ่มต้นด้วยการตัดสวิตช์ไฟของแอร์ ที่ปกติมักติดตั้งเป็นเบรกเกอร์ อยู่ไม่ห่างจากแอร์มากนัก ให้ดึงสลักลงมาที่ off ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้มีกระแสไฟ ไหลในวงจร จากนั้น ก็ทำการถอดหน้ากากแอร์ด้านหน้าออก จะพบกับแผ่นกรองฝุ่น โปร่ง ๆ อยู่ สังเกตไม่ยากเลย เพราะมันจะมีฝุ่นเกาะเกรอะกรังไปหมด ค่อย ๆ ถอดออกมาระวังฝุ่นด้วย ทางที่ดีให้ใส่หน้ากากอนามัยไว้ จะดีที่สุด ใช้แปรงสีฟันแปรงเบา ๆ ค่อย ๆ ให้เศษฝุ่นหลุดออกไป แต่หากหนามาก ก็อาจใช้ฟองน้ำค่อย ๆ ถูก็ได้ เมื่อสะอาดดีแล้วก็นำไปตากแดด เพื่อฆ่าเชื้อโรค
  • บริเวณคอยล์เย็น กับแผ่นกรองที่เราถอดออกมานั้น ให้ทำการกำจัดการฝุ่น หรือดูดฝุ่นออกไป ใช้น้ำยาโฟมล้างแอร์ ฉีดทิ้งไว้ ฉีดให้ทั่ว แต่อย่าให้เยอะมาก รอไว้ราว 1 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำยาล้างแอร์ ได้ทำหน้าที่ของมัน  เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว ก็ทำการประกอบแผ่นกรอง เข้าที่เช่นเดิม ปิดหน้ากาก ครอบให้เรียบร้อย เปิดแอร์ทิ้งไว้ซักชั่วโมงหนึ่ง เพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของคอยล์เย็น เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย งานล้างแอร์ด้วยตัวเอง ง่าย ๆ ที่คุณแม่บ้านก็ทำเองได้ แต่ให้ลองสังเกตดูว่า หากล้างแล้วแอร์ยังไม่ค่อยเย็น ก็อาจจำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ เพื่อเพิ่มสารทำความเย็นเข้าไปในระบบแอร์ ซึ่งงานที่วุ่นวายขึ้นเช่นนี้ เรียกช่างดีกว่านะคะ่ แต่อย่างน้อยในแต่ละครั้งที่คุณล้างเอง ก็ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้ตั้งหลายร้อยแล้วล่ะ

  • ยินดีให้บริการลูกค้าทุกท่านค่ะ – ถ้าท่านไม่มีเวลา และไม่สะดวกในการจัดการ ล้างแอร์ด้วยตัวท่านเอง ทางเรายินดีรับใช้และให้บริการลูกค้าทุกท่านอย่าง รวดเร็ว และ เป็นกันเอง ในราคาย่อมเยาว์ ด้วยทีมงาน ช่างล้างแอร์ ช่างซ่อมแอร์ มืออาชีพ ทำงานเรียบร้อย บริการเป็นกันเอง ดูแลใส่ใจงาน ล้างแอร์ ซ่อมแอร์ ให้ทุกท่านเป็นอย่างดี มีการรับประกันการซ่อมแอร์ ติดต่อมาที่เราได้ทุกวันและเวลานะคะ รับบริการ ล้างแอร์บ้าน ซ่อมแอร์บ้าน ติดตั้งแอร์บ้าน ย้ายแอร์บ้าน ซ่อมตู้เย็น ซ่อมตู้แช่ ที่ โทร : 02-897-1224-5 , 02-897-1522 ต้องการล้างแอร์เป็นจำนวนมาก โรงงาน อพาร์ทเม้น คอนโด บริษัท สำนักงาน โรงแรม ขอราคาพิเศษได้ที่ โทร : 089-166-8765 เปิดให้บริการทุกวัน เพื่อดูแลและคอยให้บริการลูกค้าผู้มีพระคุณยิ่งทุกท่าน ค่ะ

 


 

ล้างแอร์ด้วยตัวเองไม่ได้โทรหาเรา

ราคาล้างแอร์

การล้างแอร์มีกี่แบบ

by Yensabuy Service Air Comments: 0

ล้างแอร์

มีทั้งหมดกี่แบบกันแน่ | เราขอสรุปให้ทุกท่านเกิดความเข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

 

ล้างแอร์ มีด้วยกัน 4 แบบ

 

ล้างแอร์

1. ล้างย่อยแอร์

การล้างแอร์ แบบที่หนึ่ง ส่วนที่ 1. การล้างแผ่นกรองฝุ่น เพื่อช่วยให้แอร์มีการถ่ายเทลมได้สะดวกเพราะฝุ่นที่เกาะติดกับแผ่นกรองเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอร์คุณจะมีอาการแปลก ๆ ตามมาเรื่อย ๆ ควรหมั่นล้างทำความสะอาดแอร์ด้วยตัวเองได้ นำแผ่นกรองฝุ่นออกมาล้าง ซัก 1-2 อาทิตย์ ล้างซักครั้ง จะช่วยคุณประหยัดค่าไฟฟ้าไปโดยไม่รู้ตัวเลยหล่ะ ส่วนที่ 2. ล้างคอนเดนซิ่งแอร์ (แอร์ตัวนอก) เจ้าตัวนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นตัวที่ต้องดูดความร้อนออกมาจากภายในห้อง และนำมาทิ้งออกข้างนอกผ่านตัวคอนเดนซิ่ง ถ้าเจ้าตัวคอยล์ร้อนด้านนอก สกปรกมากจนทำให้การระบายความร้อนของแอร์ไม่ดี หรือ ดีไม่เท่าที่ควร สิ่งที่ตามมาจะจุ๊กจิก มาก ๆ เช่น ใช้งานแอร์อยู่ เดี๋ยวเย็น เดี๋ยวไม่เย็น บางทีก็ไม่เย็นไปซะดื้อ ๆ ทิ้งไว้ซักพัก ก็กลับมาเย็น แต่ก็เย็นได้พักเดียวก็ไม่เย็นอีกแล้ว

ล้างแอร์ โทรเลย

 

ล้างแอร์

2. ล้างแอร์ ด้วยน้ำแรงดันสูง

การล้างแอร์ แบบที่สอง คือ ล้างแอร์ กำจัดฝุ่น PM2.5 ด้วยการฉีดล้างทำความสะอาดตัวคอลย์เย็นด้านในห้อง ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง กำจัดฝุ่นที่เกาะตามช่องระบายลมออก ล้างกำจัดไรฝุ่น ล้างฟิวเตอร์ ล้างอุปกรณ์ของแอร์ทุกชิ้นที่สามารถล้างได้ และทำการเป่า หรือ ผึ่งไว้ให้แห้ง เพื่อรอนำมาประกอบใส่เมื่อทำการล้างแอร์ทุกชิ้นส่วนเรียบร้อย ทำการล้างทำความสะอาดคอนเดนซิ่ง (แอร์ตัวนอก) ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง ขั้นตอนการล้างแอร์ แอร์คอยล์เย็นตัวที่อยู่ด้านในห้อง ให้ทำการถอดหน้ากาก และอุปกรณ์ ต่าง ๆ ออกมาให้เหลือ แต่แฟนคอยล์ เพื่อเตรียมทำการล้างแฟนด์คอยล์ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง โดยใช้ผ้าคลุมล้างตัวแอร์ด้านใน เพื่อทำการฉีดน้ำแรงดันสูง ล้างทำความสะอาดแผงฟิลคอยล์ เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกที่เกาะติดอยู่ตามรังผึ้งแอร์ ฉีดล้างโบว์หางกระรอก ตัวสีดำด้านในตัวแอร์ เจ้าตัวนี้ก็จะมีฝุ่นจับอยู่ตามซี่ของใบพัด ต้องทำการฉีดน้ำแรงดันสูง ล้างทำความสะอาดให้หมดจด เพราะจะทำให้การกวักลมมีความสม่ำเสมอและไม่มีเสียงรบกวนเวลาแอร์ทำงาน

ล้างแอร์

 

ล้างแอร์ ล้างคอยล์แอร์

3. ล้างแอร์ โดยใช้น้ำยาล้างคอยล์แอร์

การล้างแอร์ แบบที่สาม เพื่อช่วยกัดเซาะสิ่งสกปรกที่ติดฝังแน่น อยู่ในแผงรังผึ้งแอร์ ตัวคอยล์เย็น หรือ คอยล์ร้อน เนื่องจากใช้ปั้มฉีดน้ำแรงดันสูงก็ยังไม่สามารถทำให้สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่หลุดออกไปจนหมดได้ ช่างแอร์จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้น้ำยาล้างคอยล์แอร์มาช่วย กัดเซาะสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นติดอยู่ในรังผึ้งของแอร์ เทราดไปในแผงรังผึ้งแอร์ ทิ้งระยะเวลาไว้ซัก 10-15 นาที เพื่อให้น้ำยาล้างคอยล์แอร์ ทำความสะอาดกัดเซาะสิ่งสกปรกที่ติดฝังแน่นอยู่นาน หลุดร่อนออกมา แล้วจึงใช้ปั้มน้ำแรงดันสูง จัดการฉีดล้างทำความสะอาดเครื่องแอร์อีกครั้ง จนแผงคอยล์แอร์ขาวใหม่ดูสะอาดเหมือนแอร์เพิ่งซื้อมาติดใหม่ เมื่อล้างแอร์เสร็จแล้ว ช่างก็ทำการประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ถอดมาเข้าที่เดิม แค่นี้ ก็เป็นอันจบกระบวนการ


ล้างแอร์ โทรเลย

ตัดล้างแอร์

4. การตัดแอร์ออกมาล้างนอกสถานที่

การล้างแอร์ แบบที่สี่ เป็นการ ล้างแอร์ ที่เรียกว่าขั้นสูงสุด สุดท้าย จริง ๆ วิธีนี้จะช่วยล้างขจัดฝุ่นที่เล็กกว่าฝุ่น PM2.5 จะทำในกรณีที่แอร์คุณใช้งานมานานเกินกว่า 3-5 ปี จนแอร์เกินอาการไม่ปกติหลาย ๆ อย่าง เช่น มีเสียงดังให้น่ารำคาญตลอด กำลังลมที่ออกมาจากตัวแอร์ไม่กระจายออกเต็มกำลัง เหมือนอั้นอยู่ในตัวแอร์ แอร์เปิดแล้วมีกลิ่นอัปชื้นตลอดเวลา แอร์มีกลิ่นเหม็นเป็นบางที แอร์ไม่ค่อยเย็น เปิดไว้นานกว่าจะเย็น แอร์เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง แอร์เย็นไม่ฉ่ำ แอร์เย็นชืดชืด รู้สึกเหนียวตัวไม่สดชื่น แอร์กินไฟอย่างมาก เพราะค่าไฟขึ้นหากเราไม่ได้สังเกตุ และ สุดท้ายจะทำให้ แอร์ไม่เย็นเลย อาการดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้น ต้องแก้ไขด้วยการตัดแอร์ออกมาจากห้องที่ติดตั้งอยู่ และนำมาแกะชิ้นส่วนออกเป็นชิ้น ๆ จะว่าไปก็คือ แกะทุกชิ้นส่วนของแอร์ให้เหลือแต่รังผึ้งแอร์เลยทีเดียว และน้ำมาแช่น้ำยาล้างคอยล์ ทิ้งไว้ซักระยะหนึ่ง เพื่อให้น้ำยาล้างคอยล์ ทำการกัดเซาะคราบสกปรกฝังแน่นอยู่นานนับปีออกให้หมด หลังจากนั้น จึงใช้ปั้มน้ำแรงดันสูง จัดการฉีดล้างทำความสะอาดรังผึ้งแอร์อีกครั้ง จนแผงคอยล์แอร์ขาวใหม่ดูสะอาดเหมือนแอร์เพิ่งซื้อมาติดใหม่ เมื่อล้างรังผึ้งแอร์เสร็จแล้ว ช่างก็ทำการประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ถอดมาทุกชิ้นเข้าที่เดิม เพื่อรอนำไปติดตั้งในตำแหน่งที่ถอดมา พร้อมทั้งทำการล้างระบบความเย็น แว๊กคั่มระบบ และเติมน้ำยาแอร์ใหม่เต็มระบบ แอร์คุณก็จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และนำความเย็นออกมาได้เต็มพลังเหมือนแอร์ใหม่ยังไงอย่างนั้น แค่นี้ ก็เป็นอันจบกระบวนการ

ล้างแอร์

 


ล้างแอร์มีกี่แบบ

ล้างแอร์ ทั้ง 4 แบบ

เรามีความพร้อมในการให้บริการ โดยช่างแอร์ผู้ชำนาญงานแอร์บ้าน โดยตรง รับ ล้างแอร์ทุกประเภท ล้างแอร์บ้าน ล้างแอร์สำนักงาน ล้างแอร์โรงงาน ล้างแอร์คอนโด ล้างแอร์หอพัก ล้างแอร์โรงแรม | รับล้างแอร์จำนวนมาก เราสามารถล้างแอร์ได้วันละมากกว่า 200-300 ตัว จากที่เคยทำงานให้กับโรงแรมชั้นนำทั่วไทยมาแล้ว ด้วยทีมงานช่างแอร์จำนวนมาก ที่เราเตรียมพร้อมไว้ให้บริการลูกค้าทุกท่าน อย่างเร่งด่วน รวดเร็ว ฉับไว  เพราะความร้อน รอไม่ได้ เราขอเป็นส่วนหนึ่ง ในการเสริฟความสุข ความเย็นสบาย สดชื่น ฉ่ำเย็น ถึงบ้านลูกค้าทุกท่าน เพียงแค่โทรหาเรา ความ เย็นสบาย สดชื่น ฉ่ำเย็น จะกลับหวนคืนสู่บ้านแห่งความสุข ของลูกค้าทุกท่านอย่างเร็วไวค่ะ

“ร้อนเมื่อไหร่ก็โทรมาหาเรานะคะ”

เย็นสบาย แอร์บ้าน ครบวงจร

บริการงานแอร์บ้าน แอร์โรงงาน แอร์สำนักงาน โทรได้ทุกวันค่ะ

ล้างแอร์ โทรเลย
ล้างแอร์ โทรเลย
ล้างแอร์
ล้างแอร์

 


ล้างแอร์

ราคาล้างแอร์ผนัง

ขนาดบีทียู(BTU)ระบบธรรมดาอินเวอร์เตอร์
9,000 – 18,000400.-500.-
18,001 – 24,000500.-600.-
24,001 – 30,000600.-700.-
30,001 – 38,000700.-800.-
ดูราคาค่าล้างแอร์ อินเวอร์เตอร์ เริ่มต้น 500.- บาท

นัดล้างแอร์ออนไลน์  |  ศูนย์บริการโทร : 02-012-0122 | 02-897-1224-5 | 02-897-1522 | 089-166-8765 |

รายละเอียดการทำงาน

( ล้างใหญ่ ) คอยล์เย็น ( EVAPERRATOR )

1. ล้างทำความสะอาดโบเวอร์ ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง
2. ล้างทำความสะอาดฟิลคอยล์ (EVAPERRATOR) ด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูง
3. ดูดและเป่าทำความสะอาดระบบท่อน้ำทิ้งด้วย (BLOVER)
4. ล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ (FILTER)
5. ตรวจเช็คจุดต่อสายไฟภายในระบบ และยึดสกรูสายไฟให้แน่นหนา
6. ตรวจเช็ครอบความเร็วของมอเตอร์พัดลม (FANCOLL)
7. ตรวจเช็คสปีด เทอร์โมรูม และ รีโมทควบคุมความเย็น (CONTROL)

( ล้างใหญ่ ) คอยล์ร้อน ( CONDENSING UNIT )

8. ล้างทำความสะอาดแผงครีบคอนเดนซึ่งด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูงและ BLOVER
9. ผสมน้ำยาฉีดล้างเครื่องปรับอากาศจะทำ ให้ขาวสะอาด และ มีกลิ่นหอม
10. ตรวจเช็คจุดต่อสายไฟภายในระบบ และยึดสกรูสายไฟให้แน่นหนา
11. ตรวจวัด แรงดันของระบบน้ำยา เช็คกำลังอัดของคอมเพรสเซอร์
12. ตรวจเช็ตการทำงานของไทม์เมอร์ และอุปกรณ์ช่วยสตาร์ททุกชนิด ของระบบคอมเพรสเซอร์
13. ตรวจเช็คกระแสไฟฟ้า และ การทำงานของคอนเดนซิ่งยูนิต

การเรียกเก็บค่าบริการ

ส่งบิลเรียกเก็บเงินเมื่อทำงานเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

** การล้างแต่ละครั้งจะมีผ้าใบคลุม สำหรับป้องกันความสกปรก และน้ำกระเด็นใส่สิ่งของ ของลูกค้า ด้วยการทำงานแบบมืออาชีพ เราตั้งใจให้พนักงานทำงานอย่างมีคุณภาพและดูแลรักษาความสะอาด ในการทำงานทุกครั้งให้ลูกค้า ผู้มีพระคุณยิ่งทุกท่านค่ะ


ล้างแอร์

ค่าบริการล้างย่อยแอร์

| นัดล้างแอร์ออนไลน์ | ศูนย์บริการโทร : 02-897-1224-5 | 02-897-1522 | 089-166-8765 |

ราคาล้างย่อยแอร์ผนัง

ขนาดบีทียู (BTU)ราคาระยะเวลา
20,001 – 48,000300.-15-30 นาที
กรณีแอร์เสียเก็บค่าตรวจเช็ค300.-15-30 นาที
* รวมค่าบริการ / ค่าตรวจเช็ค ค่าเดินทาง / ค่าล้างย่อยแอร์ / แล้วแต่กรณี

รายละเอียดการล้างย่อยแอร์

( ล้างย่อย ) คอยล์เย็น ( EVAPERRATOR )

1. ล้างทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่น (Filter)
2. ดูดและเป่าทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งด้วยเครื่องเป่าลมกำลังสูง
3. ตรวจเช็คจุดต่อสายไฟในระบบ และยึดสกรูสายไฟให้แน่นหนา
4. ตรวจเช็ค รอบความเร็วของมอเตอร์พัดลม คอยล์เย็น และใบพัด
5. ตรวจเช็คชุดควมคุมระบบแอร์เทอร์โมรูมและรีโมท

( ล้างย่อย ) คอยล์ร้อน ( CONDENSING UNIT )

6. ดูดและเป่าแผงครีบคอนเดนซิ่งยูนิตด้วยเครื่องเป่าลมกำลังสูง
7. ตรวจวัดแรงดันของระบบน้ำยา ที่คอนเดนซิ่ง
8. ตรวจเช็คการทำงานของอุปกรณ์ช่วยสตาร์ททุกชนิด
9. ตรวจเช็คการทำงานของมอเตอร์และใบพัดลมคอยล์ร้อน
10. ตรวจเช็คการทำงาน ของระบบคอมเพรสเซอร์แอร์

การเรียกเก็บค่าบริการ

ส่งบิลเรียกเก็บเงินเมื่อทำงานเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

** กรณีล้างย่อย คิดค่าล้างย่อย 300.- บาท แอร์ขนาดใหญ่เกิน 20,000 BTU | ค่าบริการตรวจเช็ค 300.- บาท กรณีแอร์เสีย ไม่ได้ล้างแอร์ | – ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามหน้างานจริง เจ้าหน้าที่จะแจ้งรายละเอียดราคาค่าใช้จ่าย ให้ลูกค้าทราบก่อนการดำเนินการทุกครั้ง ขอบคุณที่ไว้วางใจใช้บริการเย็นสบาย ค่ะ !!

ราคาล้างแอร์อินเวอร์เตอร์ | ราคาล้างแอร์แขวน